อย.ปรับลดราคายารักษาโรคสมาธิสั้น Methylphenidate HCI (Ritalin) เมทิลเฟนิเดต

ผู้ป่วยสมาธิสั้นได้เฮ! อย.ปรับลดราคายาเมทิลเฟนิเดต ไฮโดรคลอไรด์ ลง 36% เพื่อเป็นการลดภาระแก่ผู้ป่วยที่ต้องใช้ยานี้เป็นประจำ โดยก่อนหน้านี้ อย.ได้ประกาศปรับลดราคายาแก้ปวดมะเร็ง Fentanyl Transdermal Patch (เฟนตานิล ชนิดแผ่นแปะผิวหนัง) ในขนาดต่าง ๆ 25 -36 % โดยยาทั้งสองรายการจะมีผลลดราคาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.52 นี้




นพ. พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายวัตถุเสพติดให้โทษและวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทให้แก่สถานพยาบาลต่างๆ ปรับลดราคาวัตถุเสพติดจำเป็นที่ใช้ในทางการแพทย์ เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของ โรงพยาบาล คลินิก ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยได้ใช้ยาราคาถูกลง ทั้งนี้ อย.ได้ปรับระบบการจัดซื้อ โดยเปิดกว้างให้มีการแข่งขันเสนอราคาเพื่อให้ได้ยาที่มีคุณภาพในราคาที่ถูก และได้ประกาศปรับลดราคายาแก้ปวดสำหรับโรคมะเร็ง Fentanyl Transdermal Patch (เฟนตานิล ชนิดแผ่นแปะผิวหนัง )ในขนาดต่าง ๆ 25-36% ไปแล้วนั้น



อย.ขอแจ้งให้ สถานพยาบาล โรงพยาบาลต่าง ๆ และผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยารักษาโรคสมาธิสั้นว่า อย.ได้ปรับลดราคายาMethylphenidate HCI 10 mg./tab (Ritalin) เมทิลเฟนิเดต ไฮโดรคลอไรด์ 10มิลลิกรัม ขนาดบรรจุ 200 เม็ด/กล่อง (ริตาลิน) ราคาเดิมกล่องละ 1,400 บาท ราคาใหม่กล่องละ 900 บาทโดยปรับลดลง 36 % ทั้งนี้ ราคาใหม่ของยาทั้งสองรายการมีผลตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2552 เป็นต้นไปนพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี กล่าวต่อไปว่า อย.ได้พยายามจัดหาแหล่งยาที่มีคุณภาพ ราคายุติธรรม รวมทั้งเจรจากับผู้จำหน่าย เพื่อให้ได้ยาราคาถูกลง จะได้ไม่เป็นภาระกับผู้ป่วยโดยเฉพาะยารักษาโรคสมาธิสั้นที่ผู้ป่วยจะต้องใช้ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นภาระหนัก โดยเฉพาะนักเรียนและเยาวชน นอกจากนี้ อย.มีเป้าหมายที่จะปรับลดราคาวัตถุเสพติดที่ใช้ในทางการแพทย์ทุกรายการที่ อย.จำหน่าย เพื่อประโยชน์ของประชาชน

อย.เตือนใช้'ยาสมาธิสั้น' ทำให้เด็กตายเฉียบพลัน สั่ง'ควบคุม'การนำเข้า!! เตรียมประกาศ'ห้ามใช้'

อย.เตือนใช้'ยาสมาธิสั้น' ทำให้เด็กตายเฉียบพลัน สั่ง'ควบคุม'การนำเข้า!! เตรียมประกาศ'ห้ามใช้'
อย.ประกาศเตือนการใช้ "ยาสมาธิสั้น"รักษาเด็กที่มีอาการซนผิดปกติให้มีสมาธิหรือนิ่งอาจส่งผลทำให้"ตายเฉียบพลัน" ไม่ทราบสาเหตุ สั่งควบคุมปริมาณการสั่งนำเข้ามาจำหน่ายในไทย



วันที่ 3 ธ.ค. 2552 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วารสารทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา เผยผลการศึกษา พบว่า การใช้ "ยาสมาธิสั้น" อาจสัมพันธ์กับสาเหตุของการ "ตายอย่างเฉียบพลัน" ไม่ทราบสาเหตุในเด็ก องค์การอาหารและยาสหรัฐ (US FDA) เตรียมจะประกาศผลการศึกษา รวมถึงผลสรุปว่าจะห้ามใช้ยานี้หรือไม่ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ ล่าสุดคาดว่าจะเลื่อนการรายงานไปเป็นสิงหาคม2553 ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ติดตามเฝ้าระวังการใช้ยาอย่างใกล้ชิด เฉพาะควบคุมปริมาณการสั่งนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ไม่ให้เพิ่มในอัตราที่เกินความเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าอย.ทำให้ยาขาดแคลน จึงขอความร่วมมือสถานพยาบาลทุกแห่งให้เบิกยาแค่พอใช้หากมีการประกาศห้ามใช้จะได้ไม่ต้องสูญเสียยามากเกินไป

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และคณะร่วมกันแถลงว่า "ยาสมาธิสั้น" ที่ใช้รักษาเด็กที่มีอาการซนผิดปกติให้มีสมาธิหรือนิ่งมากขึ้น และมีข่าวว่าขาดแคลน อย.สั่งยาเข้ามาในประเทศจำนวนน้อย เนื่องมาจาก อย.ได้ติดตามรายงานจากวารสารทางการแพทย์ที่ตีพิมพ์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนมิถุนายน 2552 ซึ่งองค์การอาหารและยาสหรัฐ ได้ให้มหาวิทยาลัยโคลัมเบียศึกษาวิจัยถึงสาเหตุของความชุกจากผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมากมายกับเด็ก โดยใช้เวลาศึกษานานพอสมควรและพบว่า

"การใช้ยาสมาธิสั้นมีความสัมพันธ์กับการเสียชีวิตอย่างเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุในเด็กซึ่งองค์การอาหารและยาสหรัฐ มีความวิตกกังวลกับเรื่องนี้มาก ถึงขั้นอาจห้ามใช้ยานี้ แต่อย่างไรก็ตาม ได้ให้มีการศึกษาทบทวนอีกครั้งทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่ ซึ่งเดิมจะประกาศผลการศึกษา รวมถึงผลสรุปว่าจะห้ามใช้ยานี้หรือไม่ ภายในเดือนธันวาคมปีนี้"

ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ คาดว่าจะเลื่อนการรายงานออกไป คาดว่าจะทราบผลในเดือนสิงหาคม 2553 ส่วนในผู้ใหญ่จะทราบผลในเดือนตุลาคม 2553 โดยผลสรุปดังกล่าวจะทำให้ทราบว่าจะประกาศห้ามใช้ยานี้หรือไม่ ในส่วนของ อย.เอง เมื่อทราบข่าวนี้ได้เชิญราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย และกรมสุขภาพจิต เพื่อปรึกษาหารือ ซึ่งผู้แทนแพทย์ทุกคนต่างแจ้งว่าสามารถควบคุมไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวในไทย

อย่างไรก็ตาม อย.ต้องติดตามและควบคุมการใช้ยาสมาธิสั้น โดยเจาะจงให้แพทย์ที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น รวมทั้งให้แพทย์เพิ่มความระมัดระวังการใช้ และเฝ้าระวังอาการข้างเคียงของผู้ป่วยที่รับประทานยานี้ นอกจากนี้ อย.จะไม่สั่งยานี้เข้ามาเพิ่มมากจนเกินความเหมาะสมหรือผิดปกติ เพราะนอกจากจะเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคแล้ว ยังป้องกันการสั่งเข้ามาโดยเสียประโยชน์ หากมีการประกาศยกเลิกการใช้

นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการ ฯ (อย.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในไทยมียาสมาธิสั้นอยู่ 4 ตัว คือ ยา Ritalin ขนาด 10 mg. ต่อเม็ด, ยา Rubifen ขนาด 10 mg. ต่อเม็ด, ยา Concerta ขนาด 18 mg. ต่อเม็ด และยา Concerta ขนาด 36 mg. ต่อเม็ด ยาประเภทนี้กินแล้วติดได้ จึงจัดเป็นวัตถุเสพติด ในปีนี้ อย.ได้ปรับระบบการจัดซื้อยา ให้มีการแข่งขันจากบริษัทชั้นนำ เพื่อให้ได้ยาที่มีคุณภาพดีและราคาถูกซึ่งผลปรากฏว่าได้ยาจากบริษัทเดิมของประเทศเยอรมนี และสเปน ทั้งนี้ ทำให้ราคายาลดลงจากราคาเดิม 35 เปอร์เซ็นต์ โดยปกติมีการสั่งซื้อยาดังกล่าวจาก อย.จำนวนไม่เกิน 6 แสนเม็ดต่อเดือน ในวันนี้ ( 30 พ.ย. 52 ) มียาสมาธิสั้นเข้ามาที่ อย. จำนวน 140,000 เม็ด และในช่วงสัปดาห์ถัดไป จะมียาสมาธิสั้นเข้ามาอีก 1,500,000 เม็ด ซึ่งจะเพียงพอใช้ประมาณ 2 เดือนเศษ แต่ถ้ามีการประกาศห้ามใช้จริง อย.ยังมีการเตรียมการโดยมียาตัวอื่นที่ได้รับอนุญาตทะเบียนตำรับยาและผ่านการติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาแล้ว ใช้ทดแทนได้ แต่อาจมีราคาแพงขึ้น ในขณะเดียวกัน หากไม่มีการห้ามใช้ยาดังกล่าว อย.ได้มีการเตรียมนำเข้ายานี้อีก 5,400,000 เม็ด โดยจะทยอยนำเข้าให้เหมาะสม ไม่ให้มากจนเกินไป

From : http://thaiinsider.info/